โปรโมชั่นพิเศษ! รับส่วนลดทันที 6%* เมื่อชำระค่าบริการติดตั้งกับ dooDeco (ผ่อนนานสูงสุด 4 และ 6 เดือน*) ดูเพิ่มเติม
หน้าแรก
โปรโมชั่นพิเศษ
เกี่ยวกับเรา
บทความ
รีวิวลูกค้า
ติดต่อเรา

6 หลักการตกแต่งร้านเสื้อผ้าให้ขายดี เพิ่มยอดขายกระฉูด

แจก 6 หลักการออกแบบตกแต่งร้านเสื้อผ้าให้ขายดี สร้างความประทับใจให้ลูกค้าตั้งแต่เข้าร้าน และเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า กระตุ้นยอดขายให้กระฉูด

อัพเดตล่าสุด 18 Feb 2025

|

โดย dooDeco

Main Point

  • หลักการออกแบบร้านเสื้อผ้า ประกอบไปด้วย ออกแบบตกแต่งร้านให้สะท้อนตัวตนของแบรนด์, เลือกใช้โทนสีให้เหมาะกับแบรนด์และสินค้า, จัดวางพื้นที่ในร้านอย่างมีประสิทธิภาพ, จัดวางสินค้าให้เข้าถึงได้ง่ายให้เลือกและลองสินค้าได้สะดวก, จัดแสงไฟเพื่อเน้นสินค้าและสร้างบรรยากาศในร้าน, มีพื้นที่ดิสเพลย์สินค้าที่หน้าร้านเพื่อดึงดูดความสนใจ
  • การตกแต่งร้านเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม นอกจากจะสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์เป็นที่จดจำแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชมสินค้าภายในร้านได้อย่างดี เพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าไปจนถึงการสร้างรายได้ให้ธุรกิจในระยะยาว


ด้วยเทรนด์การแต่งตัวที่หลากหลายในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและตอบสนองรสนิยมเฉพาะของลูกค้า ทำให้การออกแบบพื้นที่ภายในร้านให้เหมาะสมและตรงใจผู้บริโภคถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การชอปปิง เสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ



สำหรับใครที่กำลังมีแพลนเปิดร้านขายเสื้อผ้า dooDeco มีหลักการและไอเดียการออกแบบตกแต่งร้านเสื้อผ้าแบบง่าย ๆ เพื่อสร้างพื้นที่การขายที่โดดเด่นและดึงดูดสายตา เน้นเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจน เพื่อสร้างยอดขายแบบพุ่งกระฉูด มาฝากทุกคนกัน



5 หลักการออกแบบร้านเสื้อผ้า สร้างยอดขายพุ่งกระฉูด

1. ออกแบบตกแต่งร้านให้สะท้อนตัวตนของแบรนด์

การออกแบบตกแต่งร้านเสื้อผ้าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ออกแบบให้สะท้อนตัวตนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าจดจำและแตกต่าง พร้อมทั้งสอดคล้องกับสไตล์และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไปตามกลุ่มลูกค้า



แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น

การจัดเลย์เอาต์ในร้านเสื้อผ้าแฟชั่น

ภาพ: การจัดเลย์เอาต์ในร้านเสื้อผ้าแฟชั่น



การตกแต่งร้านควรสะท้อนถึงความสดใหม่และเทรนด์ที่กำลังมาแรง อาจเน้นใช้สีสันสดใสหรือคู่สีที่โดดเด่น จัดพื้นที่ร้านให้มีเลย์เอาต์แบบไดนามิก เช่น การจัดชั้นวางสินค้าแบบปรับเปลี่ยนได้ หรือการเพิ่มมุมโชว์คอลเลกชันพิเศษที่ปรับเปลี่ยนได้อยู่เสมอ
นอกจากนี้การสร้างมุมถ่ายรูปที่สะท้อนถึงสไตล์และคาแรกเตอร์ของแบรนด์จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าถ่ายภาพแชร์บนโซเชียลมีเดีย อย่างการใช้ผนังกราฟิกที่เปลี่ยนได้ตามซีซัน การจัดแสงไฟแบบเน้นตัวสินค้า หรือการใช้วัสดุตกแต่งที่ดึงดูดสายตา



แบรนด์เสื้อผ้าวัยทำงาน

ร้านเสื้อผ้าวัยทำงานแบบทันสมัย

ภาพ: ร้านเสื้อผ้าวัยทำงานแบบทันสมัย



การออกแบบควรเน้นความเป็นทางการที่มาพร้อมกับความทันสมัย ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้หรือวัสดุโลหะเลือกโทนสีเรียบง่าย อย่างสีเทา สีน้ำตาล หรือสีขาว เพื่อสะท้อนความสง่างามและความมั่นใจในสไตล์ของผู้ใหญ่ การตกแต่งสามารถเพิ่มลูกเล่นด้วยไฟส่องสว่างแบบปรับโทนได้เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น แต่ยังคงความหรูหรา



แบรนด์เสื้อผ้ามินิมอล

ร้านเสื้อผ้ามินิมอล เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น

ภาพ: ร้านเสื้อผ้ามินิมอล เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น



การตกแต่งร้านของแบรนด์มินิมอลควรสะท้อนความเรียบง่าย สบายตา โดยใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นและหลีกเลี่ยงการใช้ลวดลายที่ซับซ้อน โทนสีที่นิยม อย่างสีขาว สีเทา หรือสีเอิร์ธโทน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย อาจใช้พื้นที่แบบเปิดโล่งเพื่อให้ร้านดูกว้างและเป็นระเบียบ



แบรนด์เสื้อผ้าหรูหรา

ร้านเสื้อผ้าหรูหราตกแต่งด้วยหินอ่อน

ภาพ: ร้านเสื้อผ้าหรูหราตกแต่งด้วยหินอ่อน



สำหรับแบรนด์ที่เน้นความหรูหรา ควรใช้วัสดุตกแต่งที่สะท้อนความพรีเมียม เช่น หินอ่อน กระจกใสขอบทอง หรือผ้าเนื้อนุ่ม โทนสีที่นิยม อย่างสีทอง สีดำ สีขาว หรือสีเบจ และสามารถเพิ่มองค์ประกอบอย่างพรมหรู โซฟาดีไซน์พิเศษ หรือโต๊ะกระจก เพื่อสร้างบรรยากาศที่มีระดับและสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์



doodeco doodeco

2. เลือกใช้โทนสีให้เหมาะกับแบรนด์และสินค้า

โทนสีของแบรนด์และร้านค้า

ภาพ: โทนสีของแบรนด์และร้านค้า



การเลือกใช้โทนสีให้เหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบร้านขายเสื้อผ้า เพราะสีไม่เพียงแต่ช่วยสะท้อนตัวตนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกและการตัดสินใจของลูกค้าอีกด้วย การเลือกโทนสีที่ดี ต้องเลือกให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์และลักษณะสินค้า เพื่อให้การออกแบบตอบโจทย์และสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น


  • แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์หรูหรา: เลือกใช้สีโทนอบอุ่นหรือสีเอิร์ธโทน อย่างสีขาว สีครีม สีเบจ หรือสีเทา เพื่อสร้างบรรยากาศที่สง่างามและสบายตา
  • แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์สดใส: ควรเลือกใช้สีสันที่มีชีวิตชีวา อย่างสีชมพูพาสเทล สีเหลืองสด หรือสีฟ้าอ่อน เพื่อเพิ่มพลังงานและดึงดูดสายตา

นอกจากนี้การเพิ่มมิติด้วยการใช้สีสร้างจุดเด่น อย่างการตกแต่งมุมสินค้าใหม่หรือมุมโปรโมชันด้วยสีที่แตกต่างจากโทนสีหลักของร้าน จะช่วยกระตุ้นความสนใจและทำให้ร้านดูน่าสนใจยิ่งขึ้น



3. จัดวางพื้นที่ในร้านอย่างมีประสิทธิภาพ

แบ่งโซนสินค้าเป็นสัดส่วน

ภาพ: แบ่งโซนสินค้าเป็นสัดส่วน



การจัดวางพื้นที่ในร้านค้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมทั้งประสบการณ์ของลูกค้าและยอดขายของร้าน การจัดวางพื้นที่ควรมีความชัดเจนและเป็นสัดส่วน เพื่อลดความสับสนและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินเลือกซื้อสินค้า โดยควรคำนึงถึงการใช้งานในแต่ละโซนดังนี้


  • โซนสินค้า: จัดเรียงสินค้าให้เป็นระเบียบและแยกตามหมวดหมู่อย่างชัดเจน เช่น โซนเสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าผู้ชาย หรือสินค้าใหม่ ควรใช้ชั้นวางและราวแขวนที่มีความสูงพอเหมาะเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกหยิบเสื้อผ้าได้ง่าย
  • โซนลองเสื้อผ้า: ควรตั้งอยู่ในจุดที่เดินถึงได้สะดวก และมีจำนวนห้องลองที่เพียงพอ พร้อมเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กระจกเต็มตัว แสงไฟที่ช่วยเสริมความมั่นใจ และพื้นที่สำหรับวางของส่วนตัว
  • โซนแคชเชียร์: วางไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าถึง โดยอาจอยู่ใกล้ทางออกเพื่อเพิ่มความสะดวกในการชำระเงิน นอกจากนี้ ควรจัดมุมเล็ก ๆ สำหรับโชว์สินค้าเสริม อย่างเครื่องประดับหรือของชิ้นเล็กที่ลูกค้าอาจตัดสินใจซื้อเพิ่มในขณะรอชำระเงิน


4. จัดแสงไฟเพื่อเน้นสินค้าและสร้างบรรยากาศในร้าน

การจัดแสงไฟในร้านเสื้อผ้า

ภาพ: การจัดแสงไฟในร้านเสื้อผ้า



การจัดแสงไฟในร้านเสื้อผ้าเป็นองค์ประกอบที่มีผลอย่างมากต่อการสร้างบรรยากาศภายในร้าน แสงไฟที่เหมาะสมช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นรายละเอียดของสินค้าได้อย่างชัดเจน ทั้ง สี เนื้อผ้า และดีไซน์ แถมยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การชอปปิงที่น่าประทับใจอีกด้วย


  • แสงไฟหลัก (Ambient Lighting): เพื่อให้ร้านมีความสว่างเพียงพอและสร้างความสบายตา แสงไฟประเภทนี้ควรกระจายตัวทั่วทั้งร้าน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินเลือกสินค้าได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด
  • แสงไฟเน้น (Accent Lighting): ใช้เพื่อเน้นจุดเด่นของสินค้า อย่างมุมสินค้าใหม่ หรือสินค้าที่ต้องการโปรโมต โดยสามารถใช้ไฟสปอตไลต์หรือไฟแถบ LED เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า
  • แสงไฟสร้างบรรยากาศ (Decorative Lighting): เลือกดีไซน์ของโคมไฟหรือไฟตกแต่งที่สะท้อนตัวตนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น โคมไฟสไตล์มินิมอลสำหรับแบรนด์ที่เน้นความเรียบง่าย หรือไฟดีไซน์ล้ำสมัยสำหรับแบรนด์ที่เน้นความโมเดิร์น นอกจากจะเสริมภาพลักษณ์แล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดใจลูกค้า


5. มีพื้นที่ดิสเพลย์สินค้าที่หน้าร้านเพื่อดึงดูดความสนใจ

หุ่นโชว์เสื้อผ้าบริเวณพื้นที่ดิสเพลย์

ภาพ: หุ่นโชว์เสื้อผ้าบริเวณพื้นที่ดิสเพลย์



อีกหนึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการขายและสร้างความโดดเด่นให้กับร้านเสื้อผ้า คือ การจัดพื้นที่ดิสเพลย์หน้าร้าน ด้วยการใช้หุ่นโชว์เสื้อผ้า ที่จัดชุดให้เข้ากับธีมของร้านหรือฤดูกาล การเพิ่มพร็อพ เช่น หมวก กระเป๋า หรือเครื่องประดับ ที่เข้ากันกับสินค้า เพื่อสร้างเรื่องราวให้กับสินค้านั้น ๆ อีกทั้งการใช้ป้ายข้อความ "New Arrival" หรือ "Special Offer" ก็สามารถช่วยสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
dooDoco ได้รวบรวม 6 ไอเดียออกแบบร้านเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ ที่พร้อมมัดใจลูกค้าได้ตั้งแต่แรกเห็น พร้อมเอกลักษณ์ความโดดเด่นที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์มาให้ทุกคนเห็นภาพกันแบบง่าย ๆ



6 ไอเดียออกแบบร้านเสื้อผ้าให้โดดเด่น ดึงดูดลูกค้า พร้อมเพิ่มเสน่ห์ให้แบรนด์

1. เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น สะท้อนเอกลักษณ์เสื้อผ้าสไตล์มินิมอลได้อย่างลงตัว

ร้านเสื้อผ้าสไตล์โฮมมี่

ภาพ: ร้านเสื้อผ้าสไตล์โฮมมี่



เสื้อผ้าสไตล์มินิมอลที่สะท้อนความเรียบง่ายและอบอุ่น เหมาะกับการจัดร้านในบรรยากาศแบบโฮมมี่ โดยคุมโทนสีในสไตล์มินิมอลอย่าง สีขาว สีเบจ และสีเทาอ่อน เพื่อสร้างความรู้สึกสงบ สะอาดตา นอกจากนี้การเพิ่มลูกเล่นด้วยผนังอิฐบล็อกแบบดิบ ๆ หรือการประดับตกแต่งด้วยรูปภาพศิลปะสไตล์เก๋ ๆ จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์และทำให้ร้านเสื้อผ้าดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ชวนให้ลูกค้าเดินชมสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการชอปปิง



2. แบ่งสัดส่วนภายในร้านให้ชัดเจน Mix & Match ได้ทุกสไตล์แฟชั่น

การแบ่งสัดส่วนของสินค้นค้าในร้านเสื้อผ้า

ภาพ: การแบ่งสัดส่วนของสินค้นค้าในร้านเสื้อผ้า



ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นที่สะท้อนสไตล์ทันสมัยและมีเอกลักษณ์ ควรเน้นบรรยากาศที่โปร่งสบาย มีทางเดินกว้างขวางที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า พร้อมจัดแบ่งโซนอย่างชัดเจน เช่น แยกตามสีหรือสไตล์ของเสื้อผ้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาและ Mix & Match ชุดที่ต้องการ พร้อมติดกระจกบานใหญ่แบบเต็มตัวภายในร้าน ให้ลูกค้าได้ลองเสื้อผ้าแล้วเช็กความเข้ากันของชุดแบบมั่นใจ เพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายด้วยการปูพื้นไม้ พร้อมตกแต่งพื้นที่ด้วยต้นไม้สีเขียวในจุดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความสบายตา



3. เสริมลุคสุดเท่กับเสื้อผ้าแฟชั่นสุดคูล ด้วยปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์

พื้นที่ Display โชว์สินค้าในร้านเสื้อผ้าแฟชั่น

ภาพ: พื้นที่ Display โชว์สินค้าในร้านเสื้อผ้าแฟชั่น



สำหรับร้านเสื้อผ้าแฟชั่นแบบเท่ ๆ การแต่งร้านที่เน้นความดิบแบบปูนเปลือย และดีไซน์พื้นที่ภายในร้านแบบเรียบ ๆ ไม่เน้นความหวือหวา จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของร้านให้ดูเก๋ สอดคล้องกับลักษณะเสื้อผ้าของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เพิ่มจุดโฟกัส ด้วยการใช้ไฟเน้นไปที่สีสันของเสื้อผ้าแฟชั่นสุดชิคให้มีความโดดเด่น สะดุดตา พร้อมกับการเพิ่มพื้นที่บริเวณหน้าร้านไว้สำหรับจัดโชว์สินค้า หลากหลายหมวดหมู่ เช่น รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าที่สนใจไอเทมอื่น ๆ นอกเหนือจากเสื้อผ้าได้มาช้อปกันแบบเพลิน ๆ



4. คงความเรียบง่าย แบบไม่ตกเทรนด์ ด้วยไอเดียแต่งร้านโทนสีขาวตัดดำ

ร้านเสื้อผ้าเน้นโทนสีขาวและแสงไฟ

ภาพ: ร้านเสื้อผ้าเน้นโทนสีขาวและแสงไฟ



เสื้อผ้าสำหรับชาวออฟฟิศ มักเน้นดีไซน์แบบเรียบง่าย ร่วมสมัย และเหนือกาลเวลา เหมาะกับการตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น ด้วยโทนสีขาวในบริเวณกำแพงและเพดาน ตัดกับสีดำจากพื้นและราวแขวนเสื้อผ้า จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นนอกจากนี้การจัดแสงไฟแบบฝังผนังและการใช้โทนแสงอย่างเหมาะสม จะเพิ่มมิติให้ร้านมีความน่าสนใจ ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชมสินค้าภายในร้าน เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น



5. สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผ่านสไตล์การตกแต่งแบบไฮคลาส

ร้านเสื้อผ้าสไตล์ลักซ์ชัวรี

ภาพ: ร้านเสื้อผ้าสไตล์ลักซ์ชัวรี



สะท้อนภาพลักษณ์ของเสื้อผ้าสไตล์เรียบหรู ผ่านการตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์และราวแขวนเสื้อผ้าจากวัสดุสเตนเลสที่มีความแวววาว รวมถึงปูพื้นด้วยหินอ่อน และเลือกใช้พรมขนาดใหญ่สีน้ำเงิน ดีไซน์หรูหรา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสไตล์ลักซ์ชัวรี แต่งแต้มพื้นที่สีเขียวเล็กน้อย ด้วยการประดับต้นไม้สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมดีไซน์รูปแบบของไฟบริเวณเพดานให้เป็นแพตเทิร์นที่น่าสนใจ เพิ่มความโดดเด่นสะกดทุกสายตาได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าร้าน



6. แต่งร้านให้ทันสมัยสไตล์โมเดิร์น เติมเสน่ห์ให้ชุดทำงานสายแฟชั่น

ตกแต่งร้านเสื้อผ้าด้วยไม้ระแนงและความโค้งมนของพื้นที่

ภาพ: ตกแต่งร้านเสื้อผ้าด้วยไม้ระแนงและความโค้งมนของพื้นที่



เสื้อผ้าสำหรับวัยทำงานที่ช่วยเสริมลุค Professional ควรเน้นการแต่งร้านที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความทันสมัย โดยเลือกใช้ไม้ระแนงในพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความโค้งมน หรือ Curve Design จะช่วยสร้างเสน่ห์และปรับมู้ดภายในร้านให้มีความละมุนนุ่มนวล สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้เวลาในการเดินชมสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ



dooDeco รับบริการออกแบบร้านเสื้อผ้า โดดเด่นสวยงามตามสไตล์ที่ต้องการ

หากคุณกำลังมองหาทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถออกแบบร้านขายเสื้อผ้าให้สวยงาม สะดุดตา และครบองค์ประกอบที่จะช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมงาน dooDeco พร้อมให้บริการด้วยดีไซเนอร์มืออาชีพและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่เข้าใจความต้องการของธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าอย่างแท้จริง เรามุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับร้านขายเสื้อผ้าให้โดดเด่น สะท้อนภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พร้อมตอบโจทย์ทั้งในด้านความสวยงามและประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ในระยะยาว

ดูผลงานการออกแบบจาก dooDeco ได้ที่นี่!




dooDeco รับออกแบบตกแต่งภายในพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้ได้ดีไซน์ที่สวยงาม ครบจบทุกฟังก์ชัน

  • เราให้บริการออกแบบ บิ้วอิน-ฟิตอิน ด้วยเทคโนโลยีผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพและมาตรฐาน พร้อมติดตั้งหน้างานในระยะเวลาอันสั้น ลูกค้าสามารถ Customize ขนาดและสั่งผลิตให้พอดีกับพื้นที่ได้
  • ไม่ทิ้งงาน 100% เพราะเรามี Project Manager คอยดูแลงานตั้งแต่ต้นจนจบ
  • เห็นภาพรวมห้อง เพราะเรามี Interior Designer ช่วยออกแบบพร้อมขึ้นรูป 3D ให้
  • คุมงบได้ไม่บานปลาย เพราะเรามี ใบเสนอราคา BOQ รายชิ้น
  • รับประกันงาน 1 ปีเต็ม หมดกังวลเรื่องบริการหลังการขาย


บทความอื่นๆ